ส่องปัญหาฝุ่นละอองกรุงเทพ มีผลต่อสุขภาพเราอย่างไร

ส่องปัญหาฝุ่นละอองกรุงเทพ มีผลต่อสุขภาพเราอย่างไร

ปัญหาฝุ่นควันในเมืองหลวงที่มีการจราจรคับคั่งนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เราเข้าใจและเรียนรู้เรื่องแบบนี้มานานมากแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานไหนออกมาตีแผ่ให้ทุกคนได้ตระหนักว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ กรุงเทพมหานครมีจำนวนประชากรเข้ามาอาศัยอยู่เพิ่มขึ้นทุกปี และปริมาณของยานพาหนะก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย บนท้องถนนแต่ละสายไม่เคยว่างเว้นจากรถราที่สัญจรไปมา ควันจากท่อไอเสีย เศษฝุ่นเศษดินตามผิวถนน ก็ผสมรวมกันเป็นมลภาวะที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ยิ่งถ้าช่วงไหนที่มีการก่อสร้างขนาดใหญ่ ก็ยิ่งเพิ่มภาระให้กับสิ่งแวดล้อมเป็นเท่าทวีคูณ

ครั้งแรกในการเผชิญหน้ากับปัญหาฝุ่นละอองของคนเมือง

            อย่างที่บอกไปแล้วว่าที่ไหนมีคนมาก มีรถมาก ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองเป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงไม่ได้มีปัญหาฝุ่นครั้งแรกตอนที่เรารู้ข่าว PM2.5 ซึ่งหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างออกมารณรงค์ให้สวมหน้ากากกันฝุ่นเป็นการใหญ่ เราตื่นตัวเรื่องฝุ่นเป็นครั้งแรก แต่เมืองหลวงแห่งนี้มีปัญหาเรื่องฝุ่นมานานมากแล้ว และถึงวันนี้หลายคนจะลืมไปว่าเราเคยกลัว PM2.5 มากแค่ไหน แต่ฝุ่นที่เป็นอันตรายก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม อาจจะลดลงบ้างหรือเพิ่มขึ้นไปอีกก็แล้วแต่กิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่นั่นเอง

ปัญหาที่น่ากลัวกว่าการเกิดฝุ่นละอองก็คือ เราไม่มีมาตรการที่ดีเพียงพอสำหรับจัดการกับปัญหานี้เลย เมื่อไรที่ตรวจพบว่าค่าฝุ่นละอองในอากาศสูงกว่ามาตรฐานความปลอดภัย สิ่งแรกที่เราทำก็คือรณรงค์ให้ทุกคนป้องกันตัว มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบยานพาหนะตามท้องถนนว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ ได้ปล่อยมลพิษทางอากาศเพิ่มอีกหรือไม่ รวมไปถึงการให้ความรู้ว่าจะรักษาตัวอย่างไรเมื่อไรรับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นไปแล้ว แต่เราไม่มีวิธีการหรือเครื่องมืออะไรเลยที่จะควบคุมดูแลปัญหาในระยะยาว เมื่อผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม สุดท้ายปัญหาฝุ่นก็ต้องวนกลับมาอีกเช่นกัน

ฝุ่นละอองเล็กๆ ที่ส่งผลกระทบไม่เล็กต่อสุขภาพ

            ฝุ่นละอองที่เราเห็นโดยทั่วไปมันยังแยกเป็นกลุ่มย่อยๆ ได้อีก ด้วยการแบ่งตามขนาดของฝุ่น ยิ่งฝุ่นมีขนาดเล็กมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรามากขึ้นเท่านั้น เพราะมันจะเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจได้ง่าย เมื่อเข้าไปแล้วก็กระจายตัวทั่วปอดและกระแสเลือด แน่นอนว่าสิ่งที่เข้าไปภายในไม่ได้มีแค่ฝุ่นเพียงอย่างเดียว มันยังนำพาเอาสารเคมีต่างๆ เข้าไปด้วย อาการเบื้องต้นของคนที่สัมผัสกับฝุ่นละอองมากๆ ก็จะมีความระคายเคืองตามดวงตา ช่องคอ ทางเดินหายใจ ผิวหนัง เป็นต้น คนที่มีโรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว อาการจะยิ่งทรุดหนัก เริ่มไอและจามบ่อยครั้งขึ้น อาจต่อเนื่องจนเส้นเลือดในช่องทางเดินอักเสบหรือแตกได้ ในระยะยาวมันอาจเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งทางเดินหายใจ มะเร็งปอด เป็นต้น

สำหรับคนที่มีการป้องกันทางเดินหายใจดีแล้ว ด้วยการปิดหน้ากากกันฝุ่นซึ่งได้มาตรฐานรับรองว่าสามารถกันฝุ่นขนาดเล็กได้จริง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะออกไปเผชิญกับภาวะฝุ่นได้อย่างเต็มที่ เพราะมันมีผลกระทบต่อผิวกายภายนอกด้วยเหมือนกัน หลายคนเริ่มต้นจากการระคายเคือง มีอาการแพ้ เป็นลมพิษ ยิ่งในพื้นที่ที่เป็นผิวเนื้ออ่อน เช่น ข้อพับ ซอกคอ ริมฝีปาก ใบหน้า พวกนี้ยิ่งอ่อนไหวและขึ้นผื่นได้ง่าย นานไปก็จะเพิ่มอาการแสบร้อนขึ้นไปจนถึงสามารถทำลายเซลล์ให้เสียหายได้เลย การป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดจึงเป็นการหลีกเลี่ยง ไม่เข้าไปในพื้นที่ที่กำลังมีปัญหาอยู่ หรือถ้ามันจำเป็นจริงๆ ก็ต้องแต่งตัวให้มิดชิด เมื่อกลับถึงบ้านก็รีบล้างทำความสะอาดร่างกายโดยเร็ว